วันพุธที่ 21 มกราคม พ.ศ. 2552

my favorite --- สิ่งที่ชอบของฉัน

----------------------------------------------------------------------
เราก็ทั้งชอบถ่ายรูป อ่านหนังสือ ดูหนัง ฟังเพลง และอะไรอื่นๆ อีกมากมาย หลายอย่างจริงๆ
โดยเฉพาะ พวกดูหนัง ฟังเพลง ก็หลากหลายศิลปิน หลากหลายแนวเข้าไปอีก...



แต่พอมองลึกๆ ลงไป ทำไมสิ่งเหล่านี้ให้เราชอบได้หล่ะ

ต้องเป็นเพราะ...มันทำให้เรามีความสุข เนื้อหาดี ให้ข้อคิดที่มาสะดุดใจเราได้ละมั๊ง?
----------------------------------------------------------------------
ถ่ายรูป

จริงๆ แล้วเราชอบถ่ายรูปมากเลยนะ คงเป็นผลพลอยได้จากการไปเที่ยว

พอไปเที่ยวแล้ว วิธีที่เก็บความทรงจำได้ดีที่สุดก็คงเป็นการถ่ายรูป เหมือนเป็นการฝึกฝีมือไปเรื่อยๆ

นานๆ แล้วพอกลับมาดูอีกที มันทำให้กลับไปนึกถึงช่วงเวลานั้น

ตอนนั้นกำลังทำอะไรอยู่...

ได้พบเจอกับสิ่งอะไรบ้าง...
ได้เห็นความงามของสิ่งที่ธรรมชาติได้สรรค์สร้างขึ้นมา...



ให้ทาย...รูปนี้ถ่ายที่ไหน
.
.

.
หลายคนคงคิดว่าต่างจังหวัดซักที่
.
.
.
แต่เดี๋ยวก่อน
มันอยู่ในกรุงเทพนี่แหละ...ทางด่วนแถวบ้านเรานั่นเอง :]

ส่วนรูปที่ถ่ายอื่นๆ ก็ขอเชิญไปดูกระทู้ด้านล่างๆ นะ ^^
----------------------------------------------------------------------
ดูหนัง


ดูได้ทุกแนว ทุกแบบ วันนี้ขอมาแนะนำเรื่องที่ชอบเป็นพิเศษละกัน

Just Like Heaven


นางเอกในเรื่องชื่อ เอลิซาเบธ (รีส วิเธอร์สปูน) เป็นคุณหมอ (คล้ายๆพวกเราอ่านะ) เอาแต่ทำงานอย่างเดียว ไม่หาความสุขให้กับชีวิตเลย จนกระทั่งวันหนึ่ง ก่อนจะต้องไปนัดสำคัญ ก็โดนรถชน อยู่ในอาการโคม่า วิญญาณก็เลยล่องลอย กลับมาที่อพาร์ตเมนต์ของเธอ ซึ่งพระเอกชื่อเดวิด (มาร์ก รัฟฟาโล่) มาเช่าแทนแล้ว เรื่องก็ดำเนินไปจนกระทั่ง เธอได้คนพบว่าตัวเองว่าเธอเป็นใคร และเธอเป็นอย่างที่เป็นอยู่ได้อย่างไร ความสัมพันธ์ของทั้งคู่ก็พัฒนามากขึ้น จนกลายเป็นความรัก และพบว่าเธอไม่เคยรู้จักหาความสุขให้ตัวเองเลย จนเธอคิดได้ แต่ก็เกือบจะสายไปเสียแล้ว แต่ในที่สุด เธอก็ฟื้นขึ้นมาได้ และค้นพบตัวตนที่แท้จริง ว่าชีวิตไม่ใช่อยู่ที่แค่ทำงานๆๆ ต้องรู้จักใช้ชีวิตให้เป็น

เป็นเรื่องที่ดีมากๆ ขอแนะนำให้ไปดูกัน ^^
----------------------------------------------------------------------
ฟังเพลง

ก็ชอบพวกเพลง pop , easy-listening ทั่วๆ ไปของ...

บอยด์ โกสิยพงศ์
บอย ตรัย
Moderndog
P.O.P.

Groove Riders
ประมาณนั้น

เพลงของศิลปินเหล่านี้ส่วนใหญ่เนื้อหาของเพลงจะมีข้อคิดเสมอ ไม่ใช่มีแต่เรื่องความรักอย่างเดียว เหมือนกับเพลงวัยรุ่นทั่วๆ ไปในปัจจุบัน

แต่เพลงที่เราชอบตลอดมา ก็คือ
เพลงที่แห่งนี้ ของ P.O.P.


เป็นเพลงที่มีเนื้อหา และทำนองของเพลงดีมากๆ หลายคนคงจะเคยได้ยินมาก่อนแล้ว แต่ถ้าไม่เคย ก็ลองฟังดูได้ด้านข้างนะ
----------------------------------------------------------------------
อ่านหนังสือ

พวกที่ชอบก็เป็นพวก Harry Potter, หัวขโมยแห่งบารามอส ฯลฯ แนวผจญภัยแฟนตาซี

ที่ชอบอีกแนวก็พวกหนังสือของ วินทร์ เลียววาริณ

แนะนำเล่มนี้แล้วกัน

ก็เป็นหนังสือทำนองเสริมกำลังใจ

เนื้อหาดี ให้ข้อคิดในการใช้ชีวิตตลอดทั้งเล่ม

รูปสวย แนวอาร์ตๆ หน่อย

ตามสไตล์ของวินทร์

อ่านแล้วรู้สึกดี



--------------------------------------------------------------------------------
ในความคิดเรา

เราว่า...ความสุขหาได้ไม่ไกล มองหาได้รอบๆ ตัวเรา


"เพราะมันอยู่ในทุกๆ อย่าง"


ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ นะ :]

----------------------------------------------------------------

วันพุธที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2552

music++

--ตอนนี้กำลังชอบเพลงนี้อยู่--
เปิดใจ Groove riders
----------------------------------------------------------------------
ใช่ไหม.. ที่ฉันรอมานาน ที่ฉันตามหามาเท่าไร
ใช่ไหม.. นี่ไงที่ต้องการ แค่ฉันนั้นคิดจะเปิดใจ


อยู่ที่ไหน อาจอยู่ในสายลม ที่มันได้พัดและผ่านไป
ในหยาดฝน หรือว่าอยู่ในท้องทะเล โอ้ ขอบฟ้านั้นใช่ไหม


ฉันไม่รู้ แค่หลับตาสิแล้วลองนึกดู ทุกสิ่งที่อยู่รอบๆกาย
ถึงได้รู้ ไม่ต้องไปหาที่ไหน เพราะมัน
อยู่ในทุกๆอย่าง


ใช่ไหม.. ที่ฉันรอมานาน ที่ฉันตามหามาเท่าไร
ใช่ไหม.. นี่ไงที่ต้องการ แค่ฉันนั้นคิดจะเปิดใจ

อยู่ที่ไหน อาจอยู่ในความรักของเธอ ที่ทำให้โลกนี้สดใส
ในบทเพลง ที่บรรยายความรักของใคร ที่ทำให้เรานั้นหวั่นไหว

----------------------------------------------------------------------



วันอังคารที่ 6 มกราคม พ.ศ. 2552

my journey 1.4 : ณ. ภูชี้ฟ้า

Day 4 : 3 January 2009















ตีสองครึ่ง... ได้เวลาตื่นแล้ว
(พึ่งนอนไปได้สามชั่วโมงกว่าเองนะ --" )

ตีสาม......... ออกจากที่พัก ขณะนี้อุณหภูมิ 17 องศา

ก่อนอื่นต้องบอกว่า จากการสอบถามคนพื้นที่ และคนที่พึ่งขึ้นไป เค้าบอกกันว่า ใช้เวลาสองถึงสามชั่วโมง (ประมาณ 107 km) กว่าจะขึ้นไปถึง ยิ่งช่วงเทศกาลอย่างนี้แล้ว ไม่รู้ว่ารถจะติดเปล่า เลยต้องไปเช้าขนาดนี้ เพื่อไปดูทะเลหมอกและดูพระอาทิตย์ขึ้นที่ยอดภูชี้ฟ้า...
อากาศบนเชิงภู ก่อนขึ้นไปข้างบน ประมาณ 14 องศา ต้องต่อรถกระบะขึ้นไปอีก นั่งอยู่ท้ายรถหนาวมาก ลมเย็นๆ และหมอกหนาปะทะหน้าอย่างแรง...




ไม่เพียงเท่านั้น ขึ้นไปถึงแล้ว ต้องเท่าเท้าขึ้นไปบนยอดภูอีก 760 m. ไม่เบาเลยใช่ป่ะ อย่าลืมไปว่าตอนนี้ประมาณตีห้ากว่าๆเองนะ มืดมาก มีหมอกเต็ม ต้องใช้ไฟฉายส่องทางกันเลยทีเดียว ใช้เวลาเดินขึ้นไปประมาณครึ่งชั่วโมง คนเยอะมากๆๆๆ เป็นทางยาวเลยหล่ะ บนยอดภูก็อัดแน่นไปด้วยคน คน คน ละก็ คน

อุณหภูมิบนยอดประมาณ 8-9 องศา หนาวจนมือกับหน้าเย็นไปหมด เหมือนจะแข็งอยู่แล้ว *o*

ขึ้นไปถึง รออีกไม่นาน หกโมงกว่าพระอาทิตย์ก็ค่อยๆ ขึ้น ทำให้เริ่มเห็นทะเลหมอก ที่อยู่รายรอบตัวเลย มองไปอีกฝั่งของภู ก็เห็นเขตแดนที่เป็นป่าไม้ ของประเทศลาวด้วยๆ

ตอนบ่ายๆ ไปที่แม่สาย เหนือสุดแดนสยาม ไปดูตลาดที่ขายของ ตอนแรกกะจะข้ามไปพม่าด้วย แต่คนเยอะมากๆๆ แล้วต้องทำหนังสือเดินทางชั่วคราวอีก เลยตัดใจไม่ข้ามไป เพราะฝั่งไทยพม่าก็มีของคล้ายๆ กัน

กว่าจะเรียบร้อยก็เย็นๆ แล้ว ได้เวลาเดินทางกลับ ตอนประมาณเที่ยงคืนจอดรถพัก ถึงกรุงเทพฯ ตอนฟ้าสว่างของวันใหม่แล้วหล่ะ

วันอาทิตย์ที่ 4 มกราคม พ.ศ. 2552

my journey 1.3 : ไปเชียงรายแว้วๆๆๆ

Day 3 : 2 January 2009

ก่อนออกจากเชียงใหม่ เราไปแวะอ่างแก้ว ในมช.ก่อน บรรยากาศดี

อากาศเย็นๆ สบายๆ

วันนี้ ระหว่างทาง ประมาณครึ่งทาง จากเชียงใหม่ไปสู่เชียงราย ได้แวะพักที่บ่อน้ำพุร้อน เห็นป้ายเขียนว่าสูงที่สุดในไทย ได้ไปแช่น้ำร้อนด้วย กับต้มไข่ไปกินระหว่างทาง ^^



ตอนบ่ายไปวัดร่องขุ่น เป็นวัดที่อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ ออกแบบขึ้น ก็สวยจริงๆ งานละเอียดมากๆ มีจัดแสดงภาพด้วยที่อาจารย์วาดไว้ ในรูปนี่แค่ห้องน้ำนะ จะบอกให้ O.O

วันนี้นอนเร็วหน่อย (แต่ก็ 5 ทุ่มเข้าไปแระ แหะๆ) ต้องตื่นเร็วเป็นพิเศษ จะไปพิชิตภูชี้ฟ้า !!!

วันศุกร์ที่ 2 มกราคม พ.ศ. 2552

my journey 1.2 : ไปปาย--แม่ฮ่องสอน


Day 2 : 1 January 2009

หกโมงเช้า ได้เวลาตื่นแล้ว อุณหภูมิวันนี้ 17 องศา
วันนี้ไปปายแล้ว เย่ๆๆๆ ดีใจมั่กๆ




ปายอยู่ในตัวจังหวัดแม่ฮ่องสอน ผ่านไปทาง อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ ทางไปปายคดเคี้ยวมาก มีโค้งตั้ง 700 กว่าโค้ง


ในระหว่างทางที่ผ่านเขาไปเรื่อยๆ สักพักนึง ทางข้างหน้าอยู่ดีๆก็มี ควันๆ หมอกๆ หนาทึบมากกก


เลยเปิดหน้าต่างไปดู ปรากฎว่า เป็นหมอกจิงๆด้วย !!!!!!!


หมอกหนาเกินคาด สวยมากตลอดทางที่ผ่านไปตามดอย สวยจนเรารู้สึกทึ่ง ถึงกับตลึงเลยทีเดียว ^^


เราแวะกินชาร้อน ระหว่างทาง อากาศเย็นดี 14 องศา ตอนเราพูดออกมา มีไอๆ ออกมาจากปากด้วย :]


เดินทางขึ้นไปอีกสักพัก เป็นจุดที่อยู่เหนือหมอก มองลงมาเป็นทะเลหมอกเรย


พอมาถึงปายแล้ว ก็แวะไปกินที่หมู่บ้านสันติชล เป็นหมู่บ้านของพวกชาวจีนยุนนาน สร้างบ้านจากดิน ต้องไปกินอาหารที่ขึ้นชื่อให้ได้ คือ หมูพันปี คนเยอะมากกว่าที่คิด เข้าคิวนานมาก จะบอกว่า ในที่สุดเราก็ได้กินหมูพันปีจนได้ เป็นจานสุดท้ายด้วยเห็นคนเสิร์ฟบอก อิอิ


รสชาติอาหารอร่อยทุกอย่าง ประทับใจ วันหลังใครไปปาย ขอแนะนำให้ไปกิน ^^




หลังจากกินเสร็จ เราก็มาเดินตลาดคนเดิน ที่มีขายพวกโปสการ์ดขึ้นชื่อมาก

ร้านมิตรไทย เป็นร้านที่ใครๆ ที่มาปายต้องแวะมา แต่งร้านแนวดี ของก็ใช้ได้ เราซื้อของมาหลายอย่างอยู่ หนึ่งในนั้น เป็นของบัดดี้ด้ว
ย แล้วเราจะเอาไปให้นะ ^^
หลังจากแวะในเมืองเสร็จ ก็ขับรถกับ จะเข้าห้วยน้ำดัง ที่ขึ้นชื่อเรื่องทะเลหมอกมาก แต่คนล้นหลาม รถไปติดข้างใน จนเค้าไม่ให้เข้าไปในนั้นเรย แต่ว่า พอขับรถมาอีกสักพักก็ผ่านจุดชมวิว มองเห็นลงไปในห้วยน้ำดัง สวยจิงๆ




กว่าจะขับกลับลงมา ก็เย็นซะแล้ว ไปกินร้านอาหารเหนือแท้ๆ แต่งร้านสวย มีดนตรีสดเป็นเพลงเหนือๆ ฟังแล้วชิวๆดี เห็นแล้วอยากไปอยู่เหนือจัง ^^






my journey 1.1 : ถึงเชียงใหม่แล้วววว

Day 1 : 31 December 2008
-------------------------------
ก่อนอื่น ต้องบอกว่าเหนื่อยมาก กลับดึกทุกคืน อัพไม่ไหว
กว่าจาได้อัพก็เลยไปหลายวันแล้ว
แต่มันส์มั่กๆๆ ขอเล่าให้ฟังละกันน้า
-------------------------------

หลังจากเดินทางกว่า 10 ชั่วโมง ผ่านจังหวัดต่างๆ ถึง 12 จังหวัด ในทีสุดก็ถึงเชียงใหม่แล้ววววว ^^


วันนี้อากาศไม่ค่อยเย็นเท่าไหร่ โดยเฉลี่ยอยู่ประมาณ 20 องศา


เย็นวันนั้น เราได้ไปปล่อยโคมลอยด้วยแหละ เค้าว่ากันว่า การปล่อยโคมลอยเป็นการปล่อยความทุกข์โศกตลอดปีที่ผ่านมา ให้ลอยไปกับโคม เราไปลอยแถวๆประตูท่าแพ ซึ่งเป็นสถานที่ countdown ของเชียงใหม่ด้วย มีคนเยอะมากเรย บนท้องฟ้ายามดึก จึงเต็มไปด้วยโคมลอยเป็นสายยาวไปไกล



ระหว่างที่รอ countdown ช่วงแรกๆ คนก็เยอะ แต่ไม่ถึงกับเดินเลาะไปไม่ได้ เราเลยไปเดินเล่นดูของที่ ไนท์บาซาร์


ก่อนเที่ยงคืนประมาณ 20 นาที เราเลยเดินกลับมาที่ประตูท่าแพ ถึงตอนนี้คนเยอะมาก เบียดกันจนเดินแทบไม่ได้เลย คนอัดกันแน่นเป็น "ปลากระป๋อง" ของจริง!!! พอมารู้ตัวอีกที ก็เริ่ม countdown แล้ววว.......

5
..
4
..
3
..
2
..
1

Happy New Year!!!!!!!


พลุมากมายก็ถูกจุดขึ้นบนท้องฟ้า... เราก็ตามเก็บถ่ายรูปไปทั่วรอบตัว 360 องศาเรยแหละ




ถ้าเพื่อนๆสังเกตดีๆ จากรูปล่างสุดขึ้นไป เป็นรูปตั้งแต่พลุดอกนี้ถูกจุด...พุ่งไปบนฟ้า...และแตกเปรี๊ยะ!!!!


อีกรูปนึง ดูให้จุใจเรยยยยย :]







รูปอันบน เป็นพลุที่พอจุดแล้ว แตกออกบนท้องฟ้าเป็นรูปคล้ายๆ แมลงบินไปทั่วท้องฟ้าเรย
สวยมากกกกกกกก

อยู่จนดึก รถติดเต็มถนน บางคันก็จอดกลางถนนไป countdown กันเลยซะงั้น --"

กว่าจะกลับถึงที่พักก็ตี 1 กว่าไปแล้ว... ดูบล๊อค... เล่นคอม... คุยเอ็ม... อิอิ ^^


ตี 2 ครึ่งเข้าไปแล้ว... ได้เวลานอนสักที ต้องตื่นแต่เช้า...

วันพุธที่ 31 ธันวาคม พ.ศ. 2551

ส่งท้ายปีเก่า...ต้อนรับปีใหม่

Happy New Year 2009

หนึ่งปีผ่านไป ไวเหมือนโกหก
เหมือนเพิ่งรู้สึกว่าเอนท์ติดทันตะมาหมาดๆ ^^

ตอนนี้ก็ตีสองของวันที่หนึ่ง มกรา เพิ่งถึงที่พัก
วันนี้เหนื่อย ทรหด เดินทางตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า กว่าจะถึงเชียงใหม่ก็ห้าโมงเย็นเข้าไปแล้ว
แต่สนุกมาก แล้วเราจะทยอยเล่าให้ฟังแล้วกัน

ขอให้ทุกคนมีความสุขมากๆ
ให้สิ่งต่างๆที่ไม่ดีในปีเก่าผ่านพ้นไป ให้สิ่งดีๆใหม่ๆ ผ่านเข้ามา

ไปนอนแล้ว ต้องตื่นแต่เช้า
สวัสดี :]